การใช้งาน VAR แบบห่วยแตก ลดเสน่ห์ของพรีเมียร์ลีก

ลีกฟุตบอลที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งของโลกอย่างพรีเมียร์ลีกยังคงแข่งขันอย่างเข้มข้น แต่ในฤดูกาลนี้เป็นการลงเล่นโดยใช้ VAR เข้าร่วมตัดสินเป็นปีแรก ทว่ายิ่งผ่านไปหลายนัด การทำหน้าที่ช่วยตัดสินของ VAR กลับถูกโจมตีอย่างหนักเกี่ยวกับความสมเหตุสมผลและมาตรฐานของการตัดสิน

เกมพรีเมียร์ลีกกับ VAR นั้นได้รับความเห็นชอบใช้งานมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2018 เพื่อใช้งานในฤดูกาล 2019/2020 โดยมีสโมสรสมาชิกฟุตบอลลีกอังกฤษ 380 สโมสรเห็นดีเห็นงามให้นำมาใช้

One for the guys in the studio to discuss…#MOTD #LUFC pic.twitter.com/uRiOvWqGys

— Match of the Day (@BBCMOTD) November 7, 2020

หลักในการใช้งานมี 4 เรื่องหลักๆ คือ การตัดสินว่าเป็นประตูหรือไม่ ตัดสินว่าเป็นจุดโทษหรือไม่ ตัดสินว่าเป็นใบแดงโดยตรงหรือไม่ และสุดท้ายคือการเช็คว่าตัดสินลงโทษถูกคนหรือไม่ ซึ่งการมีบันทึกวิดีโอช่วยแบบนี้ทำให้ผู้ตัดสินสามารถที่จะลดข้อผิดพลาด และตัดสินให้ถูกต้องได้มากขึ้น

แต่ว่ากฎกติกาอันหยุมหยิมของ VAR ที่ถูกนำมาใช้ในเกมพรีเมียร์ลีก กำลังลดทอนความสนุกของเกมฟุตบอลที่ได้รับความนิยมที่สุดไปอย่างไม่น่าเชื่อ

การได้ประตูหรือไม่ได้ประตูในเกมลีกเบอร์หนึ่งของโลก ถูกตัดสินให้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเพียงเพราะจังหวะล้ำหน้าที่ไม่น่าจะเกี่ยวกับการเล่นฟุตบอล เช่น ช่วงแขนล้ำ หัวไหล่ล้ำ หรือ กระทั่งปลายสตั๊ดล้ำ ซึ่งบางครั้งมันก็ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย

สมัยก่อนเกมพรีเมียร์ลีก รวมถึงเกมฟุตบอลต่างๆ นักเตะและแฟนบอลสามารถได้ร่วมบรรยากาศการเฉลิมฉลองหลังทำประตูได้อย่างเต็มอิ่ม แต่ปัจจุบันจังหวะดีใจนั้นๆ ต้องรอผลตัดสินซ้ำอีกครั้ง และหลายครั้งการตัดสินว่าไม่เป็นประตูก็สร้างความรู้สึกหงุดหงิดแก่ผู้จัดการทีม นักเตะและแฟนบอลด้วย

That’s another ridiculous VAR offside decision to disallow Bamford’s goal. I actually loathe the way it’s being implemented.

— Gary Lineker 💙💛 (@GaryLineker) November 7, 2020

ในเกมล่าสุดที่ VAR ตัดสินในจังหวะทำประตูของแพททริค แบมฟอร์ด ก่องหน้าลีดส์ ยูไนเต็ด ที่แอ็คชั่นดังกล่าวแบมฟอร์ดชี้มือไปข้างหน้าเพื่อขอบอลจากเพื่อนร่วมทีม จากนั้นก็จัดการยิงประตูคริสตัล พาเลชได้ ทว่ามือที่ชี้ไปนั้นล้ำเส้นแนวหัวไหล่ของไลน์กองหล้งปราสาทเรือนแก้ว

ประตูที่ควรเป็นสกอร์เม็ดที่ 7 ในฤดูกาลนี้ของแบมฟอร์ดกลายเป็นไม่ได้ประตู และมาจากส่วนที่ไม่มีผลต่อการทำประตูแน่นอน เรื่องนี้จึงเป็นข้อถกเถียงว่าการตัดสินแบบยึดอักษรตัวต่อตัวแบบนี้มันดีสำหรับพรีเมียร์ลีกหรือเปล่า

หากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ก็มีจังหวะไม่ได้ประตูของลิเวอร์พูลในเกมกับเอฟเวอร์ตัน จากเคสมาเน่ ล้าหน้าที่แซวกันว่าแค่ขนแขน หรือจังหวะที่แฮร์รี่ แม็กไกวร์กอดรัดฟัดเหวี่ยงอัซปิลิกวยต้า แนวรับเชลซีแต่ปีศาจแดงรอดจุดโทษ

The Premier League's biggest VAR controversies rated and slated.

Jordan Pickford's challenge? Harry Maguire's WWE move? Sadio Mane offside?

All that and more: https://t.co/X0JjcuzeXF pic.twitter.com/SZQXM646fv

— Dale Johnson (@DaleJohnsonESPN) October 30, 2020

ระบบ VAR จะต้องถูกใช้งานไปจนจบฤดูกาลนี้ แต่ผลงานตัดสินที่ไม่เป็นที่ยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ ถูกวิจารณ์โดยผู้จัดการทีมมากขึ้นเรื่อยๆ และมันทำให้เกมฟุตบอลน่าเบื่อ ดังนั้นในช่วงหลังจากนี้เชื่อว่าบริษัทพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ น่าจะหาแนวทางปรับหรือสร้างมาตรฐานการตัดสินให้เป็นที่พึงพอใจมากขึ้น ก่อนที่ ความยอมรับจากสโมสรสมาชิกและแฟนบอลจะลดลงไปมากกว่านี้