ครึ่งทางแชมเปี้ยนลีก ต่อจากนี้ใครงานง่ายงานยาก

เกมแชมเปี้ยนลีก 3 นัดแรกจบลงไปทุกกลุ่ม หลายทีมทำผลงานได้ดีสมชื่อเสียง หลายทีมทำผลงานได้น่าผิดหวัง สำหรับวันนี้เราจะไปดูกันว่าแต่ละทีมแต่ละกลุ่ม ทีมไหนปังพร้อมผ่านเข้ารอบแบบสบายๆ และทีมไหนที่จะต้องเจองานยากหลังจากนี้

กลุ่มผลงานดีหลังจากนี้งานง่าย ได้แก่ 4 ทีมที่ชนะรวดเป็นจ่าฝูงกลุ่ม ซึ่งประกอบด้วย บาเยิร์น มิวนิค แชมป์เก่าและจ่าฝูงกลุ่ม A ที่ฟอร์มโหดมาก ยิงรวม 12 ลูก, แมนฯ ซิตี้ จ่าฝูงกลุ่ม C กับผลงาน 9 แต้มเต็ม ยิง 9 เสีย 1, ลิเวอร์พูล แชมป์ปีก่อน จ่าฝูงกลุ่ม D ที่ยังไม่เสียประตูให้ใครแม้ไม่มีกองหลังคนสำคัญอย่างเวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค และบาร์เซโลน่าในกลุ่ม G ที่ชิงความได้เปรียบเหนือคู่แข่งที่อย่างยูเวนตุสตอนไร้โรนัลโด้ไปได้

3⃣ wins from 3⃣ 🔥

🏴󠁧󠁢󠁥󠁮󠁧󠁿 Liverpool
🇪🇸 Barcelona
🏴󠁧󠁢󠁥󠁮󠁧󠁿 Man. City
🇩🇪 Bayern

Is the 2021 #UCL winner among them? pic.twitter.com/bq7z9hi723

— UEFA Champions League (@ChampionsLeague) November 4, 2020

หลังจากนี้ทั้ง 4 ทีมสามารถที่จะเล่นแบบสบายใจได้มากขึ้น โรเตชั่นได้โดยไม่เกิดปัญหาหนักอกหนักใจ เพราะบางทีมเหมือน

กลุ่มงานง่ายโอกาสเข้ารอบสูง สองอันดับแรกของกลุ่มนี้ยกให้เซบีย่ากับเชลซีในกลุ่ม E เนื่องจากลงเล่น 3 นัดทำผลงานชนะ 2 เสมอ 1 ทั้งคู่ น่าจะจูงมือกันเข้ารอบเพราะทีมดูเหนือกว่าทั้งกราสโนดาร์และแรนซ์ชัดเจน ขณะที่ดอร์ทมุนด์ ทีมจ่าฝูงกลุ่ม F สามารถประคองตัวเองเข้ารอบได้ไม่ยาก ส่วนกลุ่ม G ยูเวนตุสก็ดีเกินกว่าจะพลาดโอกาสตามหลังบาร์ซ่าเข้ารอบต่อไป

กลุ่มยังต้องเหนื่อยในการเข้ารอบ กลุ่ม A เป็นแอตเลติโก มาดริดที่เล่น 3 นัดมี 4 แต้ม ถือว่ามีโอกาสและความแข็งแกร่งมากกว่าโลโคโมทีฟ มอสโกและเร้ดบูล ซัลซ์บวร์ก ในกลุ่ม B ยังมีโอกาสกันทั้งหมด แม้กลุ่มนี้จะมีสองทีมดังทั้งเรอัล มาดริดและอินเตอร์ มิลานร่วมอยู่ก็ตาม แต่ผลงานที่ออกมาแต้มไม่ขาด ดังนั้นมึนเช่นกลัดบลัดและชัคตาร์ โดเน็ตที่เป็นสองทีมนำในกลุ่มจึงยังมีลุ้น

⭐️ 𝗚𝗥𝗢𝗨𝗣 𝗕 ⭐️

Which 2 teams will progress?#UCL pic.twitter.com/wLnEuPV3HP

— UEFA Champions League (@ChampionsLeague) November 4, 2020

กลุ่ม C ปอร์โต้เป็นทีมที่มีโอกาสเข้ารอบมากกว่า แต่ยังต้องไปเยือนโอลิมเปียกอส ซึ่งสถานการณ์ณ์อาจจะพลิกได้อยู่ ส่วนกลุ่ม D อาแจ็กซ์กับอตาลันต้าต้องวัดกันโดยตรงว่าใครจะทำได้กีกว่ากัน ขณะที่กลุ่ม H ทั้งแมนฯ​ยูไนเต็ดและแอร์เบ ไลป์ซิกต้องแข็งแกร่งให้ได้มากกว่านี้เพราะอย่าลืมว่าอันดับ 3 ในกลุ่มเป็นทีมใหญ่ที่ชื่อ เปแอสเช

เกมรอบแบ่งกลุ่มสามนัดที่เหลือจะเล่นกันต่อเนื่อง ตั้งแต่กลางสัปดาห์สุดท้ายเดือนพฤศจิกายน และไปจบในต้นเดือนธันวาคม ซึ่งความมันส์น่าจะอยู่ที่การพยายามหนีตายจากการต้องเจอทีมแกร่งที่น่าจะเป็นจ่าฝูงได้แน่ๆ ทั้งบาเยิร์น ลิเวอร์พูล บาร์ซ่า และแมนฯ ซิตี้ เพราะหากใครบังเอิญไปจบได้แค่อันดับสองของกลุ่ม ก็มีโอกาสที่จะจบเกมแค่รอบน็อคเอ้าท์ได้ตั้งแต่หัววัน โดยเฉพาะการจับสลากเจอบาเยิร์นและลิเวอร์พูล เนื่องจากนาทีนี้ทั้งสองทีมถือว่าเป็นทีมระดับท็อปที่เล่นในบ้านแข็งแกร่งมาก จนถึงขนาดว่าปิดประตูแพ้กันไปเลย

👀 Top scorers:

⚽️4⃣🔴 Diogo Jota
⚽️4⃣🔴 Marcus Rashford
⚽️4⃣🖤💛 Erling Haaland
⚽️4⃣⚪️⚫️ Álvaro Morata

🤔 Who's impressed you the most?#UCL pic.twitter.com/38qwrpI2oU

— UEFA Champions League (@ChampionsLeague) November 6, 2020

มันน่าสนใจว่าบรรดาทีมใหญ่ที่ตอนนี้อยู่ในตำแหน่งไม่ดีทั้งปารีส แซงต์-แชร์กแมง, เรอัล มาดริดและอินเตอร์ มิลานจะเรียกผลงานและโอกาสกลับมาทันหรือไม่ แต่ที่ได้กำไรแน่ๆ ดูแล้วก็ไม่ผลแฟนบอลที่จะได้เห็นเกมที่ดุเดือดไม่แพ้ฤดูกาลที่ผ่านๆ มาอีกแล้ว