ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ บ็อกซิ่งเดย์
เลสเตอร์ ซิตี้ พบ ลิเวอร์พูล
สนาม คิงพาวเวอร์ สเตเดียม
คืนวันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม 2019
เวลาตี 3:00 น.
แชมป์ ฟุตบอลสโมสรโลก อย่าง ลิเวอร์พูล ต้องการที่จะสร้างช่องห่างจากทีมรองจ่าฝูงในการแย่งชิงแชมป์ พรีเมียร์ลีก เป็น 13 คะแนนในเกมนี้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ คิง พาวเวอร์ สเตเดียม ในวัน บ็อกซิ่งเดย์
ลิเวอร์พูล พิสูจน์ให้เห็นที่ กาตาร์ แล้วว่าพวกเขาคือแชมป์โลก โดยได้ประตูจาก โรเบอร์โต้ ฟิร์มิโน ในเกมที่เอาชนะ ฟลาเมงโก้ ได้ 1-0 ช่วงต่อเวลา เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา และก็ถือว่าเป็นข่าวดีที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ เลสเตอร์ ได้ 3-1 ที่สนาม เอติฮัด สเตเดียม ถือเป็นการตัดคะแนนของ จิ้งจอก ไปเพื่อไม้ให้ทำคะแนนไล่มามากกว่านี้ด้วยเหมือนกัน
ด้วยผลการแข่งขันแบบนั้นทำให้ตอนนี้ ลิเวอร์พูล ทิ้งห่าง เลสเตอร์ อยู่ 10 คะแนน ใน พรีเมียร์ลีก และยังเล่นน้อยกว่า 1 เกม ซึ่งมันเคยเกิดขึ้นแค่เพียงครั้งเดียวในรอบ 27 ปี ที่ทีมหัวตารางก่อนช่วง คริสมาส ไม่สามารถคว้าแชมป์ได้นั่นก็คือ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เสียแชมป์ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 1955/96
แม้ว่าจะเป็นอย่างนั้น ลิเวอร์พูล จะต้องเจอกับบททดสอบใหญ่ในการออกไปเยือนในตะวันออกกลางของภาคกลางเจอกับลูกทีมของ เบรนเดน ร็อดเจอร์ส ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมและร่วมแย่งชิงแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้
Jurgen Klopp:
“Many of my players [of Liverpool] are parents and their children want their parents to be with them on Christmas morning. So we will try to do that tomorrow so they can stay with their families until Thursday to go to Leicester.”#LFC ? pic.twitter.com/q82cQOjmyv— Liverpool FC ? (@Reds_ENG) December 24, 2019
สถิติ 5 นัดหลังสุดที่พบกัน
5 ตุลาคม 2019: ลิเวอร์พูล 2-1 เลสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก)
30 มกราคม 2019: ลิเวอร์พูล 1-1 เลสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก)
1 กันยายน 2018: เลสเตอร์ ซิตี้ 1-2 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
30 ธันวาคม 2017: ลิเวอร์พูล 2- 1 เลสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก)
23 กันยายน 2017: เลสเตอร์ ซิตี้ 2-3 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
รวมผลการแข่งขัน: เลสเตอร์ ซิตี้ (แพ้, เสมอ, แพ้, แพ้, แพ้) ยิงได้ 6 ประตู | ลิเวอร์พูล (ชนะ, เสมอ, ชนะ, ชนะ, ชนะ) ยิงได้ 10 ประตู
ผู้เล่นที่น่าจับตามองของทั้ง 2 ทีม
เลสเตอร์ ซิตี้: เจมี วาร์ดี้
Vardy dilemma for Leicester as champions-elect Liverpool lie in wait https://t.co/OJfvBbtsCJ #NBSUpdates
— Obadia Ismail Otim?? (@ObadiaOtim) December 25, 2019
ด้วยอายุที่มากขึ้น แน่นอนว่าประสบการณ์ของเขานั้นยิ่งมากขึ้นด้วย และฟอร์มการเล่นของเขาใน พรีเมียร์ลีก ก็คงเส้นคงวาสำหรับ วาร์ดี้ ใน พรีเมียร์ลีก เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งเขาเคยยิงประตูได้มากสุดในลีกถึง 24 ลูก ในฤดูกาลที่ เลสเตอร์ ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก สมัยแรกไปครองนั่นเอง
ก่อนหน้านั้น วาร์ดี้ ทำสถิติการทำประตูให้ตัวเขาเอง 11 เกมติดต่อกันใน พรีเมียร์ลีก ก่อนที่จะมีโอกาสยิงถึง 9 ครั้งแต่ก็ไม่ได้มีสกอร์ให้กับตัวเองในเกมที่เสมอกับ นอริช ซิตี้ ไป 1-1 และต่อมาก็แพ้ให้กับ เรือใบสีฟ้า 3-1 นั่นเอง
สถิติที่น่าสนใจ: เจมี วาร์ดี้ ทำสถิติยิงมากที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้อยู่ 17 ประตู ซึ่งมากกว่าคนอื่น ๆ ในอันดับรองลงไปอยู่ 6 ลูกตอนนี้
ลิเวอร์พูล: โมฮาเหม็ด ซาลาห์
Mohamed Salah gives verdict on Manchester City’s win over Leicester and how it impacts Liverpool‼️?⬇️ https://t.co/Oyr1ps2aZi
— Liverpool Fans (@UKFansLiverpool) December 23, 2019
โดยจริง ๆ แล้ว โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ไม่ได้แสดงฟอร์มการเล่นที่ใกล้เคียงกันเลยในฤดูกาล 2019/20 นี้เมื่อเทียบกับฤดูกาลก่อน แต่อย่างไรก็ตามตัวรุก ทีมชาติอียิปต์ ทำสถิติยิงประตู 9 ลูก และ 4 แอสซิสต์ ใน 14 เกมที่ลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก
ปัญหาคือในช่วงเดือนตุลาคมใน แอนฟิลด์ นั้นเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อเท้าทำให้ หงส์แดง ไม่ได้ใช้งานเขาช่วงที่ผ่านมา ทำให้หลังจากนั้นฟอร์มการเล่นของเขาก็ไม่เปี้ยงปร่างเหมือนเดิม แต่อย่างไรเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามันเริ่มจะดีขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว
ทาง ริยาด มาห์เรซ ปีกตัวจี๊ดของ แมนซิตี้ เอาชนะทาง เบ็น ชิลเวลล์ ได้ตลอดในเกมที่ทั้งคู่เจอกันเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่ง ซาลาห์ เองก็น่าจะทำแบบเดียวกันนี้ได้กับนักเตะ ทีมชาติอังกฤษ รายนี้ด้สนเหมือนกัน
สถิติที่น่าสนใจ: ไม่มีนักเตะ ลิเวอร์พูล คนไหนที่ได้สัมผัสบอลในกรอบเขตโทษของฝ่ายตรงข้ามมากกว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ฤดูกาลนี้ (127 ครั้ง)
สภาพความพร้อมของทีม
เลสเตอร์
ร็อดเจอร์ส จะสามารถใช้งาน แม็ตตี้ เจมส์ มิดฟิลด์ของทีมที่ไม่ได้ลงเล่นให้กับทีมที่ผ่านมาอย่างยาวนานเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ ทาง ฮาร์วีย์ บาร์นส ก็จะไม่มีชื่อในเกมนี้ด้วยหลังจากถูกเปลี่ยนตัวออกในเกมที่พบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตอนที่เข้าปะทะกับ เอเดอร์สัน
ชากลาร์ โซยุนซู ตอนนี้กำลังจะได้รับโทษใบเหลือเต็มลิมิตแล้วหลังจากที่ได้รับใบที่ 4 ในเกมกับ แมนซิตี้ ที่ เอติฮัด สเตเดียม ซึ่งนักเตะทีมชาติ ตุรกี รายนี้จะต้องเล่นอย่างระมัดระวังในเกมกับ หงส์แดง เพื่อไม่ให้ได้รับใบที่ 5 และโดนแบน 1 เกมหลังจากนั้น
ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนามเป็นตัวจริง: ชไมเคิล; ริคาร์โด้ เปเรรา, อีแวนส์, โซยุนชู, ชิลเวลล์; เอ็นดิดี, เทเลม็องส์, แมดดิสัน; เปเรซ,อัลไบรท์ตัน, วาร์ดี้
#Liverpool midfielder Oxlade-Chamberlain will be sidelined for at least two games with a ligament injury to the right ankle.
“There is no chance that he will play on Thursday (against Leicester) and no chance that he will replay in 2019”, Jürgen Klopp announced on Tuesday. pic.twitter.com/Zbd4gruzdG
— Chris Ansah Destiny (@ansahchris1) December 24, 2019
ลิเวอร์พูล
อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน เดนกะเพลกออกจากการแข่งขันฟุตบอล ชิงแชมป์สโมสรโลก กับทีม ลิเวอร์พูล หลังจากที่คว้าถ้วยรายการนี้ด้วยชัยชยะเนือ ฟลาเมงโก้ พร้อมกับอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า
นักเตะวัย 26 ปี รายนี้จะไม่ได้ลงเล่นช่วยทีมทำแต้มทิ้งห่างคู่แข่งแย่งแชมป์ พรีเมียร์ลีก กับทีมจนกว่าจะหมดช่วงปีใหม่เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า ทาง หงส์แดง ยังมีปัญหาในตำแหน่งเกมรับด้วยกองหลังตัวกลางต่างพากันเจ็บเกือบหมดจน เจอร์เก้น คล็อปป์ นั้นตัดสินใจส่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค
โจเอล มาติป มีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า ขณะที่ เดยัน ลอฟเรน ก็บาดเจ็บที่ต้นขา โดยเกมนี้ ลิเวอร์พูล จะส่ง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค และ โจ โกเมส ลงเล่นเป็น 2 เซ็นเตอร์คู่กลาง โดยที่ ฟาบินโญ และ นาธาเนียล ไคลน์ นั้นจะไม่มีชื่อด้วยเช่นเดียวกัน
ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนามเป็นตัวจริง: อลิสซอน; อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โกเมส, ฟาน ไดจ์ค, โรเบิร์ตสัน; เฮนเดอร์สัน, เคอิต้า, ไวจ์รัลดุม; ซาลาห์, มาเน, ฟิร์มิโน
รูปเกมที่น่าจะเป็น
ลิเวอร์พูล พลาดได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2018/19 โดยมีแต้มห่างจากทีมได้แชมป์แค่ 1 คะแนนเท่านั้น โดยฤดูกาลนั้น หงส์แเดง เสมอกับ จิ้งจอก ไป 1-1 ที่ แอนฟิลด์ เมื่อเดือนมกราคมที่ทาง แฮร์รี แม็กไกวร์ ปฏิเสธลูกยิงเปิดหัวของทาง ซาดิโอ มาเน ไป
เมื่อพิจารณาแล้ว ที่ คิง พาวเวอร์ สเตเดียมในเกมนี้อาจจะมีผลลัพธ์เดียวกันแบบเมื่อเดือนมกราคมต้นปีก็เป็นได้ เนื่องจาก ฟอร์มการเล่นของ เลสเตอร์ ใน 2 เกมล่าสุด และปัญหานักเตะบาดเจ็บของผู้เล่น ลิเวอร์พูล 1 คะแนนแบ่งกันให้ทั้ง 2 ทีมจะมีความเป็นไปได้สูง
เลสเตอร์ ซิตี้ ไม่เคยแพ้ใครมา 9 เกมติดต่อกันใน พรีเมียร์ลีก แต่สถิตินี้ก็ต้องมาจบลงหลังจากแพ้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน นั่นเป็นผลงานที่ไม่ค่อยดีอย่างมาก ในเกมนี้ ร็อดเจอร์ส จะต้องผิดหวังกับผลงานของลูกทีมอีกครั้ง ทาง หงส์แดง อาจจะอยากประคองเกมไปเรื่อย ๆ เพื่อไม่เสีย 3 คะแนนในเกมนี้ก็เป็นสถานการณ์ที่ไม่เลวร้ายนัก