ผลการแข่งขันลาลีกานัดสุดสัปดาห์เรียกเสียงฮือฮาอย่างหนัก เมื่อสองทีมยักษ์ใหญ่ประจำลีกทั้งเรอัล มาดริด แชมป์เก่าและบาร์เซโลน่า ต่างประชัยคู่แข่งไป 1-0 ราวกับนัดกันมา
All is well @Mani11Y
😌😅#RealMadridCadiz#getafebarca pic.twitter.com/C7E3BMNufJ— Sheikh Sab ⛹️ (@00900_78601) October 17, 2020
เรอัล มาดริด แชมป์เก่าเป็นทีมที่ลงสนามก่อนโดยมีตำแหน่งจ่าฝูงอยู่ในในมือ เปิดรังซานติอาโก้ เบร์นาเบวรับกาดิซ น้องใหม่ที่เลื่อนชั้นจากลีกา สองที่ผลงานพอใช้อยู่ในอันดับเก้า แต่ดูเหมือนว่าการวางแผนจัดทัพของซีเนอดีน ซีดานที่มองข้ามช็อตไปถึงเกมแชมเปี้ยนลีกนัดแรกและเอล กลาสซิโกกับบาร์ซ่าในสัปดาห์หน้าจะทำให้กุนซือฝรั่งเศสคิดมาก เลือกพักมาร์กอส อเซนซิโอ้และคาเซมิโร่ไว้ที่ข้างสนาม
ทีมเยือนแผลงฤทธิ์ทำประตูขึ้นนำจากแอนโทนี่ โลซาโน่ในนาที 16 และรูปเกมที่ครองบอลได้มากกว่าของเรอัล มาดริดก็ไม่สามารถทำอะไรการขึงเกมรับอย่างเหนียวแน่นของกาดิซได้ แถมยังเสียวไส้ทุกครัง้ที่โดนผู้มาเยือนขึ้นเกมรุกตอบโต้ สถิติหลังเกมชุดขาวยิงเข้ากรอบ 1 หน และยิงหลุดกรอบไปถึง 10 ครั้ง สลับกับฝั่งผู้ชนะที่กดเข้ากรอบถึง 5 ครั้งแถมยังได้เตะมุมมากกว่าถึง 11 ต่อ 4 หน
🎙️ Zidane: "Today there are no excuses or anything, it's not a good day for us. Cadiz showed more pace, more desire – we must congratulate them." #RealMadridCadiz pic.twitter.com/BbfOxJiFuw
— Infinite Madrid (@InfiniteMadrid) October 17, 2020
ซีเนอดีน ซีดานยอมรับกันตรงๆ ว่า “วันนี้มันแย่มากๆ สำหรับเรา กาดิซเล่นกันเร็วกว่าและมุ่งมั่นมากกว่า ต้องยอมรับกับผลงานพวกเขา”
หลังยักษ์ล้มไปหนึ่งตน เรื่องราวช็อกๆ ที่ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดขึ้นก็เกิดซ้ำอีก เมื่อบาร์เซโลน่าลงสนามเป็นคู่ดึกและแพ้ให้เกตาเฟ่ที่อัลฟองโซ่ เปเรซ สเตเดี่ยมไป 1-0
ประตูจากจุดโทษของไฆเม่ มาต้าในนาที 56 ทำให้จอมสังหารจุดโทษรายนี้ส่งบอลผ่านการดวลตัวต่อตัวเข้าไปเป็นลูกที่ 26 จาก 27 ครั้ง และเป็นประตูชัยให้ทีม
หากแต่ถ้ามองให้ดี เกตาเฟ่ที่มี 7 แต้มจาก 4 เกมแรกก็ไม่ใช่ว่าผลงานแย่ แถมประสบการณ์พลาดโควตายุโรปเฉียวฉิวในซีซั่นที่ผ่านมา บวกกันเคยเข้าถึงรอบ 16 ทีมยูโรป้า ลีกฤดูกาลที่แล้วทำให้ต้องยอมรับว่าเกตาเฟ่นั้นแข็งแกร่งพอตัวตรงกันข้ามกับบาร์ซ่ายุคโรนันด์ คูมันน์ที่ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้
เกมนี้เป็นครั้งแรกที่เกตาเฟ่เอาชนะบาร์เซโลน่าได้นับตั้งแต่พฤศจิกายน 2011 หลังจากนั้น 17 เกมที่โดนบาร์ซ่าไล่ถล่มเอาฝั่งเดียว โดยเอาตัวรอดได้ด้วยผลเสมอแค่ 3 ครั้ง
📊[Sofascore] | #GetafeBarça |
Barcelona's Full Time stats:Score: 1-0
Possession: 73℅
Shots: 7
Shots on target: 1
Total passes: 617
Passing Acc: 535(87℅)
Long balls: 25/44 (57%)
Total duels won: 75
Fouls commited: 10— BarçaTimes Stats (@Stats_BT) October 17, 2020
สิ่งที่เกิดขึ้นในเกมของบาร์ซ่าก็ไม่ต่างจากที่เรอัล มาดริดทำได้ สกอร์จบ 1-0 โดยครองบอลมากกว่า ยิงเข้ากรอบแค่ครั้งเดียวจากความพยายาม 8 ครั้ง โดยเฉพาะจังหวะหลุดเดียวในเขตโทษของอองตวน กริซมันน์ที่ควรใส่สกอร์แต่ยิงข้ามคานไปไกลอย่างโคตรรน่าเหลือเชื่อ
สุดท้ายเซอร์ไพรซ์ที่สองยักษ์พร้อมใจกันแพ้ก็อาจจะมาจากอีกหนึ่งเหตุผล ที่ไม่เกี่ยวกับเกมฟุตบอล เมื่อทั้งสองทีมต่างลงสนามด้วยชุดสีชมพูสดใสก็เป็นไปได้.