ลิเวอร์พูลเปิดรังเหย้าแอนฟิลด์พลิกแซงเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-1 ยืดสถิติไม่แพ้ใครในพรีเมียร์ลีกที่แอนฟิลด์ออกไปเป็น 61 เกม เก็บสามคะแนนขึ้นไปเป็นจ่าฝูงชั่วคราว โดยมีแต้มทาบเอฟเวอร์ตันเป็นรองประตูได้เสียเป็นรอง
ปราการอันแข็งแกร่งอย่างแอนฟิลด์เจอลองของก่อน หลังจากที่โดนแซนเดอร์ เบิร์กจ์ซัดจุดโทษตั้งแต่ต้นเกม ในจังหวะที่ฟาบินโญ่ไปสกัดโอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ล้มลง ทีแรกผู้ตัดสินเลือกให้เป็นฟรีคิก แต่ VAR รายงานว่าเท้าของแม็คเบอร์นี่อยู่บนเส้นเขตโทษไปแล้ว
.@SheffieldUnited are the first away team to be awarded a @premierleague penalty at Anfield since Man City in Oct 2018 (missed by Mahrez)
Sheff Utd take the lead in a PL game for the first time this season pic.twitter.com/bQFAseNjmz
— Sky Sports Statto (@SkySportsStatto) October 24, 2020
ลูกทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์พยายามที่จะบดเอาประตูคืน ก่อนจะมาได้ลูกตีเสมอจากจังหวะที่จอร์แดน เฮนเดอร์สันครอสให้ ซาดิโอ มาเน่ โหม่งติดมืออารอน แรมส์เดลในทีแรก และเป็นโรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ที่ปลดล็อกการยิงประตูฤดูกาลนี้ได้ด้วยการพุ่งเข้าซ้ำในช่วงท้ายครึ่งแรก
ครึ่งหลังลิเวอร์พูลลงสนามมาและครองเกมได้ทั้งหมด มีจังหวะยิงเข้าแต่ไม่เป็นประตูของโมฮาเหม็ด ซาลาห์ในนาที 62 และจังหวะหลุดไปยิงชนเสาของดาวยิงอียิปต์อีกครั้งในนาที 82 ยังดีที่หนึ่งประตูจากการโขกของ ดิโอโก้ โชต้า ตัวรุกที่ย้ายเข้ามาในซีซั่นนี้ตั้งแต่นาที 64 ช่วยให้หงส์แดงชนะ 2-1
Diogo Jota doing the business for Liverpool 👏
— Sky Sports Premier League (@SkySportsPL) October 24, 2020
นี่เป็นเกมที่สองของหงส์แดงที่ลงเล่นโดยไร้เวอร์กิล ฟาน ไดจ์คและเลือกใช้ฟาบินโญ่เป็นเซ็นเตอร์คู่กับโจ โกเมซ ซึ่งความไม่ใช่กองหลังโดยอาชีพทำให้เสี่ยงที่ฟาบินโญ่จะตัดสินใจผิดพลาด หากนับตั้งแต่เกมกับอาแจ็กซ์มาจนถึงเกมนี้ สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือการรักษาระดับความสม่ำเสมอของคู่เซ็นเตอร์ยังไว้วางใจไม่ได้ ดีว่าคนหนึ่งออกทะเลอีกคนยังประคองเรือได้ ถ้าเจอฟอร์มเหลวทั้งคู่ก็ยังน่าเป็นห่วง
Roberto Firmino scores his 3rd goal in last 27 appearances for @LFC
It is his first shot on target in @premierleague at Anfield this season pic.twitter.com/hL8GNqioLp
— Sky Sports Statto (@SkySportsStatto) October 24, 2020
ในส่วนแนวรุก โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ซึ่งกำลังถูกวิจารณ์หนักในเรื่องของสกอร์ก็สามารถปลดล็อกได้เสียที หากหลังจากนี้สามารถยิงได้ต่อเนื่องจะสร้างความน่ากังวลใจให้แนวรับคู่แข่งมากขึ้น อีกทั้งคล็อปป์ยังมีอะไหล่เปลี่ยนตัวในแนวรุกครบ 3 ตำแหน่ง ซึ่งว่ากันเป็นภาษาปากก็คือสามประสานชุด 2
คล็อปป์ได้ทดลองใช้งานแนวรุกที่จะหมุนเวียนกันลงสนามทั้งฤดูกาลนี้เรียบร้อยแล้ว คนที่ผลงานโดดเด่นคือดิโอโก้ โชต้าที่สามารถปรับตัวเล่นได้ทันที ขณะที่ทาคุมิ มินามิโนะก็ค่อยๆ จูนตัวเองกับบอลอังกฤษได้ดีขึ้น
ขณะที่แดนกลางของลิเวอร์พูลเป็นปัจจัยสำคัญในฤดูกาลนี้ การมีนักเตะในทีมจำนวนมากได้สร้างความยืดหยุ่นในการจัดทีม และมีทางเลือกหลากหลายสำหรับกุนซือชาวเยอรมันที่จะหาวิธีการเอาชนะหรือการแก้เกมเมื่อแผน 1-2-3 ไม่เวิร์กได้ ซึ่งทีมที่จะสู้ในศึกระยะยาวต้องมีสิ่งนี้ และจุดนี้เองที่น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญมากในการรักษาตำแหน่งหัวตารางพาหงส์แดงก้าวไปลุ้นรักษาแชมป์ไว้เป็นปีที่ 2