ในฐานะนักเตะ สตีเว่น เจอร์ราด อดีตกัปตันทีมระดับตำนานของ ลิเวอร์พูล ทำสิ่งหนึ่งไม่สำเร็จ นั่นคือการความแชมป์ลีกสูงสุด แต่ในฐานะแฟนบอลหงส์แดง เขายินดีปรีดาเต็มที่กับแชมป์ที่เกิดขึ้นในฤดูกาลที่ผ่านมา และยังยินดีแม้กระทั่งวันนี้
ลิเวอร์พูลภายใต้การคุมทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ ทำสิ่งที่แฟนบอลรอคอยอย่างยาวนานกว่า 30 ปีได้สำเร็จ การคว้าแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกตั้งแต่ปี 1989 การคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรกและการยกระดับลิเวอร์พูลให้กลายเป็นบิ๊กทีมอีกครั้งของยุโรป และโลกลูกหนัง
ตุลาคม 2015 กุนซือชาวเยอรมันตกปากรับคำที่จะเซ็นสัญญาคุมทีมลิเวอร์พูล ยักษ์ใหญ่ผู้หลับใหลอย่างไม่มีที่ท่าว่าจะฟื้นตื่น หงส์แดง ที่ คล็อปป์ ค่อยๆ ปลูกฝังทัศนคติและแนวทางการเล่นแบบที่เขาต้องการลงไป กระบวนการเล่นที่รุนแรง ดุดัน เพรสซิ่งไม่รู้จักหยุด ล่าตาข่ายอย่างหิวกระหาย หงส์แดงกลายเป็นทีมที่สู้ด้วยยากสำหรับคู่แข่งทุกทีม และปราการแห่งแอนฟิลด์ก็น่าเกรงขามขึ้นทุกวัน
🗣 Steven Gerrard: "When Jurgen delivers the league they should already be starting work on a statue of him”
It won't be far away…
Five years of Klopp and Liverpool, he's achieved so much in that time 🤜🤛
🏟 272 Games
✅ 164 Wins
🏆 UCL
🏆 EPL
🏆 Super Cup
🏆 Club World Cup pic.twitter.com/32OunEJ4xY— Sport360° (@Sport360) October 8, 2020
“ทันทีที่เขามาที่นี่ พวกเราก็เริ่มที่จะลงมือทำอนุสาวรีย์ของเขาแล้ว” เจอร์ราดอดที่จะปลาบปลื้มใจจนพูดสิ่งนี้ออกมาไม่ได้ ผลงานคุมทีม 272 เกม ชัยชนะ 164 นัด แชมป์ยุโรป 1 ครั้ง แชมป์ซุเปอร์คัพ 1 ครั้ง แชมป์สโมสรโลก 1 ครั้ง และเหนืออื่นใดแชมป์พรีเมียร์ลีกที่เด็กหงส์ทุกคนรอคอย การถูกยกย่องในระดับตำนาน หรือการที่จะมีอนุสาวรีย์ตั้งตระหง่านมุมใดมุมหนึ่งของแอนฟิลด์ คงเกิดขึ้นไม่นานหลังจากนี้
Liverpool's greatest-ever signing? ✍️
Jurgen Klopp became @LFC boss #OnThisDay in 2015 pic.twitter.com/HQCDkK0dvl
— Premier League (@premierleague) October 8, 2020
8 ตุลาคม 2015 เป็นวันแรกที่คล็อปป์เซ็นสัญญาคุมสโมสร หลังจากนั้นกับ 5 ปีของกุนซือเฮฟวี่ เมทัล เป็นความพยายามในการสร้างความเชื่อขึ้นมาอีกครั้งให้กับทีมที่ถูกมองข้ามและมีความหวังแค่ริบหรี่ มันอาจจะเรียกได้ว่าเป็นการเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดเหนือการเซ็นสัญญาครั้งไหนๆ ของสโมสร เหนือการเซ็นสัญญากับนักเตะดังทุกคนที่เคยมีมาด้วย สิ่งนี้ถูกนำไปเปรียบเทียบกับวันที่สโมสรเลือกผู้จัดการทีมอย่างบิล แชงค์ลี่ย์เข้ามาสู่สโมสรเมื่อนานมาแล้ว
หนึ่งในสิ่งที่เจอร์ราดเสียดายคือเขาไม่มีโอกาสที่จะได้ลงเล่นภายใต้การคุมทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์นี่แหละ แต่เขาก็ติดตามและเรียนรู้เพื่อการเติบโตในเส้นทางโค้ชและผู้จัดการทีมจากกุนซืออดีตต้นสังกัดอย่างใกล้ชิด ดูเหมือนคล็อปป์เองก็สัมผัสได้ถึงความฝันของแฟนบอลที่หวังว่า ถ้าคล็อปป์ไม่คุมทีมแล้วก็คงจะดีถ้าเป็นเจอร์ราดที่จะกลับมาสโมสร และทำหน้าที่นี้แทนเขา
🙌 That Feeling pic.twitter.com/8az9dMgp1A
— Rangers Football Club (@RangersFC) October 1, 2020
ปัจจุบันเจอร์ราดกำลังเก็บเกี่ยวประสบการณ์การคุมทีมกลาสโกว์ เรนเจอร์สในลีกสก็อตแลนด์ หนึ่งฤดูกาลที่ผ่านไป อดีตกัปตันหงส์แดงสัมผัสทั้งช่วงเวลาที่ดีงามและช่วงเวลาที่ตึงเครียด มีโมเม้นต์ดีๆ ที่สามารถพัฒนาเขาเป็นยอดกุนซือในอนาคตได้ และมันคือความหวังที่เพริศแพร้วขึ้นทุกวันของบรรดาเดอะค็อป ที่หวังว่าวันหนึ่งเจอร์ราดจะกลับมาที่แอนฟิลด์ในฐานะกุนซือของสโมสร
ล่าสุดในปีที่สองของการพาเรนเจอร์ลุยเวทียุโรป ลูกทีมของเจอร์ราดคว่ำกาลาตาซารายและผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มได้เรียบร้อย และจะร่วมกลุ่มกับเบนฟิก้า, เลซ พอชนานและสตองดาร์ด ลีแอช ในกลุ่มดี.